1.) ข้าวหลาม...เผาอย่างไรให้อร่อย?
- ข้าวหลาม :
ทุกคนรู้จักดีมีขายทั่วทุกมุมของประเทศทุกภาค ทุกจังหวัด แต่ที่เด่นๆ
และขึ้นหน้าขึ้นตาก็ปฎิเสธไม่ได้ว่า
ต้องเป็นข้าวหลามหนองมนขึ้นชื่อมากในเรื่องของความอร่อย
ไม่ว่าจะเป็นไส้ต่างๆหลากหลายกระบอกไม้ไผ่ก็เป็นอีกมนต์เสน่ห์อย่างหนึ่งที่ทำให้ข้าวหลามหน้าทานและเป็นที่นิยมกันด้วย
เพราะเวลาผ่านหนองมนเมื่อไหร่ก็ต้องแวะ หรือแม้กระทั่งคนกรุงเทพ ผ่านมาเที่ยวขากลับก็ต้องแวะกันใช่ไหมคะ..
- อุปกรณ์ที่สำคัญที่สุด ประกอบด้วย
ไม้ไผ่ ข้าวสารเหนียว แต่ทำอย่างไรให้อร่อยนี่คือจุดสำคัญ
2.) ไผ่ชนิดไหนที่เหมาะกับการทำข้าวหลามมากที่สุด?
- ไผ่ :
ที่ใช้ทำข้าวหลามไม่ใช่ว่าเป็นไม้ไผ่ก็จะทำได้ทุกชนิด จะมีบางชนิดเท่านั้นที่ใช้ทำข้าวหลามได้ดี
แต่ข้อสังเกตุคือ ทุกจังหวัดทำข้าวหลามขายแต่ไม่มีไผ่ให้เห็น ไม่มีการปลูกไผ่
ไม่ส่งเสริมการปลูกไผ่ แต่ใช้ไม้ไผ่จำนวนมากมายมหาศาลต่อวัน
ใช้แล้วก็กลายเป็นวัสดุไร้ค่า เป็นเพียงเศษไม้อย่างมากก็ทำเชื้อเพลิง
แต่บ้านที่ไม่ใช้ฟืนหุงต้มก็จะทิ้งขว้างเป็นขยะต่อไปไม่สามารถนำกลับมาใช้ได้อีก
- ชนิดของไผ่ที่เหมาะในการทำข้าวหลามสามารถ
เรียงจากคุณภาพได้ดังนี้
1. ไผ่ข้าวหลาม
: เป็นคุณสมบัติพิเศษ คือ ปล้องยาว 30 - 60 เซนติเมตร มีขนาดหลายแบบทั้งเล็ก กลาง
ใหญ่ และเยื่อไผ่ร่อนดีมาก
ทำให้การปลอกออกจากลำไผ่ได้ดีมีทั้งความหอมได้รูปทรงของข้าวหลาม
2. ไผ่ป่า
: เป็นไผ่พื้นเมืองที่ให้เยื่อดีมีอยู่ทั่วไป ลำต้นตรงข้อพองแต่เนื้อไม่หนา
มีปล้องภายในประมาณเส้นผ่าศูนย์กลาง 1.5 - 2.5 นิ้ว
3. ไผ่สีสุก :
เป็นไผ่ขึ้นตรงลำยาวปล้องยาวและใหญ่แต่เยื่อไม่ค่อยร่อนแต่ก็สามารถใช้ได้
3.) สูตรของข้าวหลามหนองมนมีกี่สูตร?
- สูตรของข้าวหลามหนองมนนั้นมีหลักๆคือ 2
สูตร
1.ข้าวหลามหนองมนสูตรโบราณ 2.ข้าวหลามหนองมนยุคใหม่
เริ่มด้วย ...
สูตรที่ 1.กันก่อน
1.ข้าวหลามหนองมนสูตรโบราณ
ข้าว
หลามหนองมนระดับเป็นตำนาน"ร้านแม่เผื่อ"และ"ร้านแม่เหมือน"
คนส่วนใหญ่รู้จักกันทั่วตลาดหนองมนในนาม "ข้าวหลามจอมพล"
เนื่องจากในสมัยจอมพลสฤษฎ์
และนายพลเนวินแห่งประเทศพม่าเคยเรียกแม่เผื่อและแม่เหมือนไปเผาข้าวหลามให้ กิน
ปัจจุบันนี้ร้านแม่เผื่อมีแม่ปราณี ศรีป่านลูกสะใภ้เป็นผู้สืบทอดกิจการ
ข้าวหลามที่ทางร้านนำขายมีเพียง 2 ไส้เท่านั้น คือ ไส้เผือกและไส้ถั่ว
2.ข้าวหลามหนองมนยุคใหม่
ร้าน แม่นิยม
เป็นข้าวหลามยุคใหม่ที่มีการปรับตัว ปรับรสชาติของข้าวหลามไปตามสมัยนิยมเพื่อให้ลูกค้าได้ลองลิ้มชิมรสข้าวหลาม
ซึ่งเปลี่ยนร้านข้าวหลามธรรมดาให้กลายเป็นร้านข้าวหลามสะดวกซื้อ เพราะเปิดข้าว 24ชม.
ทุกวัน
สำหรับไส้ข้าวหลามของร้านแม่นิยมมีทั้งหมด
9 ไส้ ได้แก่ ไส้เผือก ไส้ถั่ว ไส้กล้วยตาก
ไส้เม็ดบัว ไส้มะพร้าวอ่อน ไส้แปะก๋วย ไส้สังขยา และน้องใหม่อย่าง ข้าวหลามชาเขียว
4.) ขั้นตอนและวิธีการทำข้าวหลาม?
- วิธีทำ
1.นำเข้าเหนียวที่จะทำ
นำไปแช่น้ำช่วงเวลาเย็น
2. ทำการคั้นกะทิไว้ควรคั้นสดในช่วงเช้าจะดี
3. รุ่งขึ้นตอนเช้าซาวข้าวเหนียวที่แช่ไว้นำมาใส่กะทิ
น้ำตาล และเกลือ คลุกเคล้าให้เข้ากัน
4. นำข้าวเหนียวที่ผสมใส่ลงไปในกระบอกไม้ไผ่ที่ได้เตรียมไว้แล้ว
ให้น้ำท่วมเมล็ดข้าวเหนียวให้เหลือพื้นที่ปากกระบอกไม้ไผ่ไว้ประมาณ 2
นิ้ว
5. นำไปเผาไฟโดยใช้ความร้อนปานกลางเผาให้สุกอย่าให้ไฟลุกจะทำให้ไหม้กระบอก
ควรเป็นลักษณะไฟถ่าน ใช้เวลาประมาณ 2 ชั่วโมง
6. ถ้าจะใส่ไส้สังขยาหรือถั่วดำให้เปิดจุกแล้วใช้ไม้สะอาดขนาดเท่านิ้วมือเราแทงลงไปตรงกลางข้าวหลามให้เป็นรูแล้วนำสังขยาเทใส่
ปิดฝาอุด แล้วนำไปเผาต่อให้สุกใช้เวลาประมาณ 1
ชั่วโมง
7. เมื่อสุกแล้วยกลงปอกเปลือก
กระบอกไม้ไผ่ออก จะได้ข้าวหลามรสสังขยาหรือถั่วดำ หรือแม้แต่ไส้อื่น ๆ
ก็ทำได้เช่นกัน
5.) เคล็ดลับความอร่อยของข้าวหลาม คือ...
- การทำข้าวหลามให้อร่อยเคล็ดลับคือ
ข้าวสารเหนียว : เป็นข้าวเหนียวชนิดดี
เมล็ดยาวเมื่อสุกมีความหวานอ่อนนุ่ม ควรเลือกข้าวใหม่ คุณภาพดี เมล็ดข้าวสวย
ไม้ไผ่ : ใช้ไม้ไผ่ทำขาวหลาม เช่น
ไผ่เปาะ ไผ่หนาม ไผ่ป่า และไผ่กาบแดง
ในการทำกระบอกข้าวหลามเพราะด้านในกระบอกจะมีเยื่อไผ่ ยังอ่อนๆ มีเยื่อขาวๆ
อยู่ข้างใน แล้วค่อยนำไปเผาไฟ มันจะหอมและอร่อย เหมาะในการทำข้าวหลามให้อร่อย
มะพร้าว :
ส่วนที่ใช้เป็นส่วนผสมโดยคั้นเป็นกะทิ จะต้องสะอาดไม่ปนเปื้อนให้มีเฉพาะเนื้อมะพร้าวที่ขาวสะอาดคั้นเป็นหัวกะทิ
กรณีบ้านเราจะใช้ไม้ไผ่ป่าเป็นหลักลำหนึ่งใช้ได้ 10
ปล้อง
การเผาข้าวหลามแบบเผาฟืน :
ซึ่งทำให้ข้าวหลามมีกลิ่นหอมน่ากิน ทว่าปัจจุบันได้เปลี่ยนจากการเผาฟืน
มาใช้เตาแก๊สแทน ขณะเดียวกันคนที่เผาข้าวหลามขายก็น้อยลงเรื่อยๆ เพราะกรรมวิธีในการผลิตยุ่งยาก
6.) รู้ไหม ทำไมเรียกว่า ข้าวหลาม
- เพราะ คำว่า หลาม หมายถึง
การทำอาหารให้สุกในกระบอกไม้ไผ่โดยใช้ไม้ไผ่สดๆ ตัดให้มีข้อติดอยู่ข้างหนึ่ง
แล้วบรรจุอาหารที่ต้องการหลามในกระบอกไม้ไผ่นั้น
ก่อนหลามต้องใช้กาบมะพร้าวห่อใบตอง อุดปากกระบอกเสียก่อน แล้วนำไปเผาจนสุก เช่น
การหลามข้าวหลามนั่นเอง
7.) การเผาข้าวหลามมีการแบบ อะไรบ้าง
- การเผาข้าวหลามมี 2
แบบ คือ การเผาในเตาฟืนและเผาในเตาแก๊ส
การเผาข้าวหลามแบบฟืนเป็นการเผาข้าวหลามแบบดั้งเดิม
ที่ต้องวางเรียงข้าวหลามบนพื้นดินเป็นแถวยาว ใช้กาบมะพร้าว ฟืน
และเศษไม้ไผ่ที่เหลือจากการทำกระบอกข้าวหลามมาสุม
คนเผาต้องใช้แรงและพลังงานเยอะในการเผา ซึ่งกว่าจะได้ข้าวหลามมา
ต้องใช้เวลาเผานานกว่า 3 ชั่วโมง ทั้งยังต้องล้างเก็บ ทำให้ยากลำบาก
คนทำข้าวหลามในปัจจุบันจึงเปลี่ยนจากการเผาข้าวหลามแบบโบราณมาใช้เตาเผาแทน
8.) ข้าวหลามมีประวัติความเป็นมาอย่างไร
- ข้าวหลามหนองมน
เป็นอาหารลือชื่อของจังหวัดชลบุรี
ซึ่งข้าวหลามหนองมนนี้มีประวัติที่เล่าต่อกันมาว่า
ในอดีต ชาวบ้านหนองมนทำนาเป็นอาชีพหลัก
และทำข้าวหลามขายเป็นอาชีพรอง เมื่อหมดฤดูทำนาก็จะขึ้นไปตัดไม้ไผ่บนเขาบ่อยาง
ซึ่งอยู่ในละแวกหมู่บ้าน
แล้วเอาข้าวเหนียวที่ปลูกได้ไปแลกน้ำตาลกับมะพร้าวจากบ้านอื่นๆ
เพื่อมาทำข้าวหลามขายในหมู่บ้าน ต่อมาเมื่อมีการตัดถนนสุขุมวิท (สายเก่า) ในปี
พ.ศ. 2485 ได้เอื้อให้นักท่องเที่ยวไปเที่ยวหาด
บางแสน
ซึ่งเป็นที่เที่ยวโด่งดังในยุคนั้นได้สะดวกขึ้น นักท่องเที่ยวจึงแวะซื้อข้าวหลาม
เป็นของฝากกลับบ้าน ทำให้ข้าวหลามหนองมนมีชื่อเสียงมากขึ้น
ต่อมา จอมพลสฤษดิ์ ธนะรัชต์
ซึ่งดำรงตำแหน่งนายกรัฐมนตรีอยู่ในขณะนั้น
มาพักตากอากาศที่บางแสนพร้อมกับนายพลเนวิน ผู้นำประเทศพม่า
และได้สั่งให้แม่ค้าข้าวหลามที่ตลาดหนองมน
ชื่อแม่เผื่อและแม่เหมือน
ไปสาธิตวิธีการเผาข้าวหลามให้ชม จนกลายเป็นข่าวดังไปทั่วประเทศ
9.) ค่านิยมและความเชื่อเกี่ยวข้าวหลาม
- ข้าวหลามถือว่าเป็นอาหารที่รู้จักกันมานามพอสมควรซึ่งแต่ละพื้นที่ก็มีวิธีการผลิตแตกต่างกัน
นอกจากจะเป็นอาหารประจำครอบครัวแล้ว นิยมนำเป็นของฝากญาติหรือผู้ใหญ่ที่นับถือ
ถือเป็นสัมพันธภาพที่ยั่งยืนดั่งข้าวเหนียว
นอกจากนี้ยังมองเห็นถึงความเป็นคนไทยที่ไปมาหาสั่นมักจะนำของฝากติดมือไปด้วยเสมอ
10.) รู้หรือไม่ว่าข้าวหลามให้พลังงานและมีคุณค่าทางโภชนาการเท่าไหร่
- คุณค่าทางโภชนาการของข้าวหลาม : 100
กรัม
ข้าวหลามหนองมน
พลังงาน 208.40 กิโลแคลอรี
ความชื้น 48.01 กรัม
เถ้า 1.14 กรัม
โปรตีน 3.52 กรัม
คาร์โบไฮเดรต 42.55
กรัม
ใยอาหาร 2.10 กรัม
ไขมัน 2.68 กรัม