แหล่งเรียนรู้ ข้าวหลามหนองมน
1.ร้านแม่นิยม
คุณยายนิยม สร้อยสน อายุ 83 ปี
อยู่ใกล้ตลาดหนองมน จังหวัดชลบุรี เล่าให้ฟังว่าได้ทำข้าวหลามมานานกว่า 40 ปี
โดยเริ่มตั้งแต่การทำกินเองในครอบครัว จนกระทั่งมาทำขาย ระยะแรกกระบอกละ 1 บาท
การทำข้าวหลามขายในช่วงนั้นไม่แพร่หลายและไม่เป็นที่นิยมมากนัก เพราะคนในท้องที่ส่วนใหญ่ไม่นิยมซื้อรับประทาน
จนกระทั่งมีคนต่างถิ่นและนักท่องเที่ยวเข้ามา
ทำให้ข้าวหลามหนองมนโด่งดังเป็นที่รู้จักทั่วไป จึงมีผู้ทำขายจำนวนมาก
ที่ทำขายมีตั่งแต่ 3 กระบอก 100 บาท หรือ 5 กระบอก 100 บาท
แล้วแต่ขนาดของกระบอก เมื่อก่อนทำเฉพาะข้าวเหนียวผสมถั่วดำ
แต่ตอนนี้มีการปรุงแต่งไส้หรือหน้าหลากหลายออกไป เช่น
มีทั้งไส้เผือกหรืออาจเรียกว่าหน้าเผือก เพราะใส่เผือกไว้ด้านบน
ไม่ได้ผสมในข้าวเหนียว หรือเป็นหน้ามะพร้าวอ่อน หน้าสังขยา หน้ากล้วย เป็นต้น
ปัจจุบันนี้ได้ลูกๆ เป็นหลักในการทำ ส่วนคุณยายจะช่วยขาย ช่วยจัดใส่ถุง
ทุบข้าวหลาม
และตอบคำถามเวลามีคนมาซื้อที่อยากทราบข้อมูลเกี่ยวกับเรื่องราวของข้าวหลาม
คุณยายพูดถ่อมตัวอยู่เสมอว่าข้าวหลามของคุณยายทำเหมือนกับคนอื่น
ไม่มีอะไรแตกต่างกัน และเมื่อถามคุณยายว่าแล้วทำไมคนจึงชอบมาซื้อของคุณยาย
คุณยายก็ตอบว่าไม่รู้เหมือนกัน พร้อมกับยิ้มอย่างดีใจและบอกว่า “เวลาทำ
ต้องเลือกของดีๆ ล้างให้สะอาด ปรุงรสให้ดี อย่าเสียดายของ”
2.หนังสือภูมิปัญญาอาหารจากข้าว โดย รองศาสตราจารย์ ดร.
ทัศนีย์ ลิ้มสุวรรณ ภาควิชาคหกรรมศาสาตร์ คณะเกษตร มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์
แหล่งเรียนรู้ครกหินอ่างศิลา
ร้านลี้เซี้ยงฮวด จินตนา พุ่มอรุณ ของครกหินอ่างศิลา
สืบต่อกิจการการทำครกจากคุณพ่อสามี
ซึ่งเป็นชาวจีนแท้ๆ
และต่อมาคุณจินตนาหรือคุณแอ๋วได้มาทำเป็นเจ้าของกิจการเองเมื่อปีพ.ศ.2524 โดยเริ่มจากการทำครกเอง
ตีหินเอง มือเป็นแผล มือด้าน ตอนช่วงแรกๆทำไม่เป็นเลย สามีจึงสอน
คุณต้องเรียนรู้อยู่นานจึงประสบความสำเร็จ แต่ในปัจจุบันคุณแอ๋วไม่ได้ทำเองแล้ว
มีการจ้างแรงงานในการตีครก มีการนำผลิตภัณฑ์ของร้านไปออกบูธตามที่ต่างๆ
ครกของคุณแอ๋ว เป็นผลิตภัณฑ์OTOP อีกด้วย ปัจจุบันร้านลี้เซี้ยงฮวดมีทั้งหมด2สาขาด้วยกัคุณแอ๋วคิดอยากจะขยายสาขาออกไปอีกแต่ทว่าไม่มีคนมาช่วยขาย
ซึ่งครกของคุณแอ๋วขายดีมากมีนักท่องเที่ยวที่แวะมาซื้อ
และมีบางเจ้าที่มาสั่งทำโดยตรง เช่น บริษัทน้ำแม่ประนอม เป็นต้น
แหล่งการเรียนรู้ อาหารทะเลแปรรูป
คุณนงเยาว์ สืบสาย ซึ่งทำอาชีพการขายอาหารแปรรูปมานานแล้ว
คือที่บ้านตั้งแต่รุ่นบรรพบุรุษประกอบอาชีพประมงเป็นเดิมทีอยู่แล้ว
แต่ของสดหากไม่นำมาแปรรูปก็จะเน่าเสีย
เลยคิดทำและหาวิธีที่จะทำให้อาหารนั้นเก็บได้นาน และสามารถเพิ่มรายได้
จึงศึกษาการทำอาหารแปรรูปจากกลุ่มแม่บ้านที่จังหวัดระยองซึ่งเป็นเพื่อนกันสมัยสาวๆแล้วนำมาสอนให้กับคนในครอบครัวตนเอง
จนกลายเป็นอาชีพหลักของครอบครัว และคุณนงเยาว์เล่าว่า
สมัยก่อนหน้านี้ก็มักจะมีคนในบริเวณบ้านใกล้เรือนเคียงมาถามและปรึกษาเกี่ยวกับการทำอาหารแปรรูปอยู่เสมอๆ
ตนจึงแนะนำไปโดยไม่คิดหวงสูตรเลย แต่ในปัจจุบันคุณนงเยาว์เล่าต่อว่า อาหารแปรรูปกำลังเป็นที่นิยมมาก
มีขายแทบทุกจังหวัด ก็ทำให้รายได้ลดลงไปบ้าง แต่คุณนงเยาว์เองก็ถือว่า
ที่บ้านนั้นไม่ต้องไปรับซื้อจากเค้ามาขาย คือลูกๆหลานๆก็ทำประมงกันหมด ทำให้เป็นการหมุนเวียนธุรกิจของคนในครอบครัวอีกด้วย
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น